การเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียง

อุปกรณ์ป้องกันเสียง (Ear Protection)

สภาพสังคมปัจจุบัน มีการนำเครื่องจักร รถยนต์  มาใช้อำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิต  กันอย่างกว้างขวาง เช่น  การผลิตสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม  การคมนาคม เครื่องจักร  รถยนต์ เหล่านี้ แม้จะช่วยอำนวยความสะดวก แต่เสียงที่ดังจากการทำงานของเครื่องจักร เครื่องยนต์  ส่งผลกระทบต่อผู้สัมผัสเสียงดังเป็นเวลานาน ๆ   เช่น ตำรวจจราจร  พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯ  ซึ่ง เป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ ทั้งทางร่างกาย  คือ  ความสามารถในการได้ยินลดลง( หูเสื่อม ) และทางจิตใจ คือ โรคเครียด โรคความดันโลหิตสูง

 

วิธีการป้องกันเสียงดังมี 3 แบบหลักได้แก่

1. ป้องกันที่แหล่งกำเนิด เช่น การเปลี่ยนระบบการทำงานของแหล่งกำเนิด  การใช้วัสดุครอบแหล่งกำเนิด   เป็นต้น

2. ป้องกันที่ทางเดินของเสียง เช่น การติดตั้งกำแพงกั้นเสียง การทำให้ระยะทางระหว่างแหล่งกำเนิดและผู้รับเสียงเพิ่มขึ้น  เป็นต้น

3. ป้องกันที่ผู้รับเสียง โดยการใช้อุปกรณ์ ที่ครอบหู (Ear muffs) หรือที่อุดหู (Ear plugs) เป็นต้น

การเลือกใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น งบประมาณที่มี  ลักษณะของสภาพแวดล้อมที่เกิดปัญหา  ลักษณะของปัญหาที่เกิด      ในกรณีของการป้องกันที่ผู้รับเสียง  การเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียง เช่น ที่ครอบหู (Ear muffs) หรือที่อุดหู (Ear plugs) มาใช้ป้องกันเสียง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น  แต่ ควรมีหลักในการเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับสภาวะทางเสียงในขณะนั้น เพราะถ้าเลือกซื้อไม่ถูกต้องอุปกรณ์ก็จะป้องกันเสียงได้ไม่มากหรือป้องกัน ไม่ได้เลย

 

ประเภทของอุปกรณ์ป้องกันเสียง       แบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่

1.ที่ครอบหู (ear muff)  ลดเสียงได้ตั้งแต่ 30-40 dB   ลดเสียงที่ความถี่สูงกว่า 400 Hz ได้ดี มี 2 ชนิด คือ แบบที่เป็นโลหะและที่เป็นพลาสติก

http://thailandsafety.com/wp-content/uploads/2016/06/SPA3-use.jpg

2.ที่อุดหู (ear plugs)  ลดเสียงได้ตั้งแต่ 15-25dB   ลดเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่า 400 Hz ได้ดี ทำจากวัสดุหลายชนิด เช่น โฟม ใยหิน ใยแก้ว ฯลฯ

http://thailandsafety.com/wp-content/uploads/2013/08/535-1.jpg

การเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียง

การเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียงต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆเหล่านี้

1.ไม่เป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมที่กระทำ

2.ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสนทนาหรือสื่อสาร

3. ระดับเสียงที่ต้องการลด และ ความสามารถลดระดับเสียงของอุปกรณ์

 

ความสามารถในการลดเสียงของอุปกรณ์ป้องกันเสียง      

การที่จะทราบว่าอุปกรณ์ป้องกันเสียงจะลดระดับเสียงได้กี่เดซิเบลสามารถหาได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

 

ระดับเสียงที่ได้รับขณะใส่อุปกรณ์  =  ระดับเสียงก่อนใส่อุปกรณ์   –  derated NRR* – Co 

* derated NRR (Noise Reduction Rating) =   NRR – (K x NRR)/100

 

โดยค่า NRR(Noise Reduction Rating) คือค่าความสามารถในการลดเสียงของอุปกรณ์ซึ่งระบุจากโรงงาน ซึ่งค่านี้ได้จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ

ค่า K คือเปอร์เซ็นต์ของ NRR ที่ใช้ลบกับ NRR    ซึ่ง  National   Institute for Occupational  Safety and Health (NIOSH) ได้แนะนำความสามารถของอุปกรณ์แต่ละชนิดในการลดระดับเสียง ( ค่า K )  ไว้ดังนี้

K = 25 กรณีอุปกรณ์เป็นที่ครอบหู

K = 50 กรณีอุปกรณ์เป็นที่อุดหูทำจากโฟม

K = 70 กรณีอุปกรณ์เป็นที่อุดหูทำจากวัสดุอื่นๆสำหรับค่า

Co จะขึ้นอยู่กับช่วงความถี่ของเสียงที่ได้ยิน (Frequency) ซึ่งโดยทั่วไปจะแบ่งเป็นช่วง ได้ดังนี้

Co = 0  กรณีระดับเสียงก่อนใส่อุปกรณ์ มีความถี่ของเสียง ในช่วงความถี่ C

Co = 7  กรณีระดับเสียงก่อนใส่อุปกรณ์ มีความถี่ของเสียง ในช่วงความถี่  A ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ได้ยิน

 

No Image

 

 

 

ป้ายแสดงค่า Noise Reduction Rating (NRR)  ของ ที่ครอบหู

 

 

No Image

ป้ายแสดงค่า Noise Reduction Rating (NRR)  ของ ที่อุดหูโฟม

 

 

ตัวอย่าง การเลือกอุปกรณ์ป้องกันเสียง

มีอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่มีป้ายแสดงค่า

 

NRR  ดังรูป วัดเสียงเครื่องจักร ได้ 95 dB(A)อยากทราบว่าควรใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียงชนิดใดเพื่อให้ได้รับเสียงรับเสียงจากเครื่องจักรไม่เกิน 70  dB(A)

วิธีทำ

เสียงที่ตรวจวัดได้ก่อนใส่อุปกรณ์เป็น 95 dB(A)

กรณีที่อุปกรณ์เป็นที่ครอบหู

NRR = 29

K = 25

Co = 7

Derated NRR =29 – (25×29)/100 =  21.75

เสียงที่ได้รับขณะใส่ที่ครอบหู = 95 – 21.75 – 7 = 66 dB(A)

กรณีที่อุปกรณ์เป็นที่อุดหูที่ทำจากโฟม

NRR = 25

K = 50

Co=7

Derated NRR = 25 – (50×25)/100 = 12.5

เสียงที่ได้รับขณะใส่ที่อุดหู = 95-12.5-7 = 75.5 dB(A)

นั่นคือ เหตุผลที่สมควรเลือก ที่ครอบหู

 

การเลือกอุปกรณ์ลดเสียงที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

และสามารถลดอุบัติเหตุที่เกิดจากเสียงในการทำงานได้ค่ะ

สินค้าสินค้า สามารถติดต่อได้เสมอค่ะ ยินดีบริการค่ะ

 Tel : 02-017-4242 MP:096-8931168 Line ID:@aro1988r Email : teamsafetysales@gmail.com

line @